ประเทศไทยกับการประมงเเบบยั่งยืน!

ประเทศไทยกับการประมงเเบบยั่งยืน!

ไทยเราเอาจริงกับการจัดการการทำประมงผิดกฎหมาย

เรื่องดีต้องชื่นชม! IUU ชื่นชมไทย กับการต่อต้านการประมงผิดกฎหมาย

ประเทศไทย กับการประมงเเบบยั่งยืน!

ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมประมงไทยได้เติบโตแบบก้าวกระโดด

โดยมี Fishery GDP ของไทยมีมูลค่าประมาณ 3,285 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.14 แสนล้านบาท

และมีศักยภาพในการผลิตและแปรรูปสินค้าอาหารทะเลและประมงอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านตันต่อปี

ประเทศไทยจึงกลายเป็นประเทศผู้ผลิต แปรรูป เพื่อการส่งออกสินค้าประมงและอาหารทะเลอันดับต้นๆ ของโลก

ในขณะที่มุ่งเป้าหมายด้านเศรษฐกิจและเป้าการส่งออก แต่เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม และผลกระทบด้านสังคมก็ต้องไม่ถูกละเลย

ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำประมงตามวิถีแบบเดิมๆ ให้ก้าวทันกับธุรกิจและอุตสาหกรรมในระดับโลก

การประมงแบบยั่งยืนนี้ ไม่ใช่ทำเพียงเพื่อทำตามข้อเสนอแนะของอียูเท่านั้น (เพื่อให้ค้าขายและส่งออกไปอียูได้)

แต่ต้องมองเป้าหมายหลัก เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

และการมีนโยบายประมงที่มีความสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เป็นสำคัญ

จึงได้มีการจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการทำการประมง (Fisheries Monitoring Center : FMC) ขึ้น

โดยมีการติดตั้ง ระบบติดตามตำแหน่งเรือ (Vessel Monitoring System : VMS) โดยใช้ระบบดาวเทียม

เพื่อคอยตรวจสอบเส้นทางและพฤติกรรมของเรือประมง และคอยเฝ้าระวังเพื่อลดจำนวนเรือประมงกลุ่มเสี่ยง

ทั้งยังกำหนดมาตรการควบคุมเรือประมงนอกน่านน้ำ และเรือขนถ่าย ด้วยระบบ (Electronic Reporting System : ERS)

และมีการติดตั้ง CCTV (Semi/Near Real-time) ที่สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

จนในการประชุมเรื่องความร่วมมือต่อต้านประมงผิดกฎหมายระหว่างอาเซียนและแปซิฟิก

ครั้งที่ 1 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่ผ่านมา ประเทศไทยถือว่าได้รับคำชมจาก

ทาง องค์การสหประชาชาติ (UN) ว่าเป็น ‘แบบอย่างประมงยั่งยืน’

ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ได้ผลที่น่าพอใจร่วมกันระหว่างอาเซียน-แปซิฟิก ที่เห็นพ้องกัน

ในการสร้างความร่วมมือทางด้านประมงยั่งยืนเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร (food security)

เป็นการร่วมมือกันจากกลุ่มอาเซียน 10 ประเทศและกลุ่มแปซิฟิก 16 ประเทศ

นอกเหนือจากนี้ กลุ่มประเทศอาเซียนก็พร้อมร่วมมือกับกลุ่มประเทศแปซิฟิก

ในการต่อต้านประมงผิดกฎหมาย ที่สอดคล้องกับ SDG ขององค์การสหประชาชาติ

โดยไทยได้รับคำชื่นชมในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing)

จนเป็นที่ยอมรับจากองค์การสหประชาชาติ (UN)

ซึ่งประเทศไทยมีฐานะเป็นประธานอาเซียนริเริ่มนโยบายประมงอาเซียน (ASEAN General Fisheries Policy)

และการจัดตั้งเครือข่าย อาเซียนในการต่อต้านการประมงผิดกฎหมาย (ASEAN Network for combating IUU fishing)

และทางที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย

ได้รับการเชิญชวนจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลและประมงอินโดนีเซีย

ให้ร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมประมงกับอินโดนีเซีย โดยมีสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเป็นพิเศษ

นับว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งของ วงการประมงไทย

และก็คงต้องรอดูแนวโน้มในอนาคตว่า การประมงไทย ของเราจะไปในทิศทางไหน

โดย Ship Expert Technology ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้บริการอินเทอร์เน็ต ผ่านดาวเทียม

และระบบ CCTV เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ‘การประมงแบบยั่งยืน’ ในครั้งนี้อีกด้วย